Figure cited in: http://marketing.blogs.ie.edu/archives/tag/partnership
แนวความคิดการมีส่วนร่วมแบบหุ้นส่วนประกอบด้วยความครอบคลุมในระดับสูง ซึ่งมีนัยของการให้ความหมายต่อประเด็นความขัดแย้งและการเจรจาซึ่งกัน การร่วมมือแบบหุ้นส่วนสามารถถูกนิยามได้คือลักษณะของแบบแผนที่มีความเกี่ยวข้องกันระหว่างผู้ดำเนินการที่มีจำนวนมากกว่าหนึ่งกลุ่ม หรือกล่าวได้อีกแบบว่าเป็นการร่วมมือกันระหว่างผู้ดำเนินการร่วมกันเพื่อนำไปสู่วัตถุประสงค์ของการพัฒนาทางเศรษฐกิจ แต่ถ้าการมีส่วนร่วมแบบหุ้นส่วนนับเป็นการฟื้นฟูเมือง (Regeneration) ที่มีความยั่งยืนอย่างประสบผลสำเร็จ เกณฑ์ที่แตกต่างที่จำเป็นสำหรับการมีส่วนร่วมแบบหุ้นส่วนอาจจะนิยามได้ว่ากลุ่มผู้ดำเนินการด้านต่างๆมีร่วมกันทำงานโดยมีเป้าหมายของการสร้างประโยชน์ที่เพิ่มขึ้นทางสังคมและไม่สามารถดำเนินการได้เพียงผู้ดำเนินการกลุ่มเดียว (Mackintosh, 1992) สามารถนิยามได้ภายใต้เงื่อนไขว่าแต่ละผู้ดำเนินการมีทรัพยากรที่เพียงพอโดยตนเองผ่านโครงการฟื้นฟูเมืองที่ประสบผลสำเร็จ
การใช้เกณฑ์การเพิ่มผลประโยชน์ทางสังคมโดย Mackintosh (1992) อยู่บนพื้นฐานของเงื่อนไข 2 ทฤษฎี ซึ่งได้สร้างขึ้นจากการทบทวนทฤษฎีที่เกี่ยวกับการส่วนมือแบบหุ้นส่วน ดังนี้
1) ขอบเขตสำหรับการร่วมมือแบบหุ้นส่วนถูกนิยามโดยบริบทของการทำงานร่วมกันที่เกิดขึ้นจากหุ้นส่วนที่แตกต่างกัน สิ่งนี้หมายถึงการนำไปสู่ประโยชน์ที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มผู้ดำเนินการที่ทำงานร่วมกันมากกว่าแยกกันดำเนินการ
2) เงื่อนไขการร่วมมือแบบหุ้นส่วนของกลุ่มผู้ดำเนินการที่หลากหลายถูกจำแนกความแตกต่างโดยความซับซ้อน โดยความเกี่ยวข้องของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องท้องถิ่นในการฟื้นฟูเมือง ซึ่งมีความจำเป็นอย่างมากในการระบุผู้มีส่วนร่วมสำคัญท้องถิ่นให้เกิดขึ้น และสิ่งที่ตามมาคือการระบุความจำเป็นทางสังคมของพื้นที่นั้น
ขณะนี้สิ่งหนึ่งที่จำเป็นที่ต้องระวังเกี่ยวกับแนวคิดด้านการร่วมมือแบบหุ้นส่วน คือ ไม่ได้มีการดำเนินการอย่างง่ายที่จะมีการดำเนินการร่วมกันทางด้านทักษะ แรงงานและทรัพยากร การร่วมมือแบบหุ้นส่วนเป็นเหตุปัจจัยหลักที่ท้าทายและก่อให้เกิดสิ่งที่คาดหวังสูง เช่น การเสริมแรง (Empowerment) ได้กับชุมชน ถ้าความคาดหวังนี้นับเป็นสิ่งที่จริงจัง การร่วมมือแบบหุ้นส่วนต้องการการเปลี่ยนแปลงเชิงกระบวนการขององค์กรและการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมของการทำงานที่ขึ้นอยู่กับระดับความเข้มข้นของการเปลี่ยนแปลง
การร่วมมือแบบหุ้นส่วนสามารถมีคุณลักษณะ ดังต่อไปนี้ (Lowndes et al., 1997; Skelcher, 1996) การร่วมมือแบบหุ้นส่วนเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นจากการมีส่วนร่วมแบบอาสาสมัครหรือการมีส่วนร่วมที่ถูกกำหนดเอาไว้ การมีส่วนร่วมแบบหุ้นส่วนอาจมีแนวโน้มมาจากพื้นฐานของความเป็นทางการ เกี่ยวข้องกับรูปแบบลักษณะเชิงโครงสร้างแบบบริษัทหรือคณะกรรมการการร่วมมือแบบหุ้นส่วน ดังนั้นการร่วมมือแบบหุ้นส่วนจะมีขอบเขตที่ชัดเจนของกลุ่มผู้เป็นสมาชิก การดำเนินการของการร่วมมือแบบหุ้นส่วนอาจมีแนวโน้มไปสู่รูปแบบทางการทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับคณะกรรมการด้วยเช่นกันในช่วงเวลาของการประชุมและการทำความเข้าใจ สิ่งที่ต้องทำก่อนสำหรับความสำเร็จในการร่วมมือแบบหุ้นส่วนคือการทำข้อตกลงร่วมกันและความเกี่ยวข้องสำหรับภาคส่วนต่างๆ และความสามารถในการประนีประนอม เพื่อที่จะเกิดผลลัพธ์อย่างประสบความสำเร็จ เช่น การติดต่อที่บ่อยขึ้น ความเชื่อใจกันมากขึ้น ความเอาใจใส่ซึ่งกัน ความน่าเชื่อถือ การเปิดใจซึ่งกัน และความซื่อสัตย์จริงใจ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ที่กล่าวมานับเป็นสิ่งที่สำคัญต่อกระบวนการฟื้นฟูเมือง (Docklands Forum, 1996 and 1997) อย่างไรก็ตามหลักการเหล่านี้ทั้งหมดนับเป็นเรื่องยากที่จะทำให้สำเร็จ และนับเป็นเรื่องง่ายที่จะทำให้การร่วมมือแบบหุ้นส่วนเสี่ยงต่อความล้มเหลว Peck and Tickell (1994) ได้บอกเป็นนัยว่าการร่วมมือแบบหุ้นส่วนได้กำหนดความสมดุลทางอำนาจในเชิงสถาบันและเชิงการเมืองเข้าไว้ด้วยกันที่อยู่ภายใต้ความแตกต่างของประเภทการร่วมมือแบบหุ้นส่วน และความแตกต่างของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่หยิบยื่นให้กันในการดำเนินการ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น